ดูดไขมันเจ็บไหม - SIAM LOFT Clinic

ดูดไขมันเจ็บไหม คำถามยอดฮิตที่ควรรู้
ก่อนการตัดสินใจดูดไขมัน

ไขข้อสงสัย ดูดไขมันเจ็บไหม? ความรู้สึกก่อนและหลังดูดไขมันเป็นอย่างไรบ้าง

ดูดไขมันเจ็บไหม? คำถามดังกล่าวนี้มักจะเป็นหนึ่งในคำถามแรก ๆ ที่หลาย ๆ คนมักจะเกิดข้อสงสัยเมื่อเริ่มสนใจในกระบวนการดูดไขมัน (Liposuction) เพื่อปรับรูปร่างและกำจัดไขมันส่วนเกิน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือเหนียงใต้คาง ที่ไม่สามารถทำการลดได้ด้วยวิธีการออกกำลังกายหรือการลดน้ำหนักตามปกติ เพราะฉะนั้นแล้วในบทความนี้ SIAM LOFT Clinic จึงอยากจะพาคุณไปรู้จักกับกระบวนการดูดไขมัน รวมถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระหว่างและหลังการทำ เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลที่ครบถ้วนมากที่สุดก่อนการตัดสินใจดูดไขมัน


ดูดไขมันเจ็บไหม
? ความรู้สึกระหว่างและหลังทำเป็นอย่างไรบ้าง

แม้ว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันนี้จะช่วยทำให้เทคนิคการดูดไขมันในรูปแบบต่าง ๆ เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ทว่าเทคโนโลยีดังกล่าวก็ยังไม่สามารถช่วยจัดการกับความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทั้งในระหว่างและหลังจากการดูดไขมันได้แบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่จะสามารถช่วยลดความเจ็บปวดให้เหลือน้อยที่สุด อีกทั้งยังมีวิธีการดูแลเฉพาะที่จะช่วยให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น


ความรู้สึกระหว่างการดูดไขมัน

ในระหว่างการดูดไขมัน ทางทีมแพทย์จะมีการเลือกใช้เทคนิคการระงับความเจ็บปวดที่เหมาะสมกับรูปแบบของการดูดไขมันและข้อจำกัดทางด้านร่างกายของผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันทุกคน เพื่อช่วยให้กระบวนการในการดูดไขมันเป็นไปอย่างสะดวกและไร้ความเจ็บปวดในขณะที่กำลังลงมือทำ อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันทุกคนสามารถคลายกังวลเกี่ยวกับความเจ็บที่อาจเกิดขึ้นโดยตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทคนิคการระงับความเจ็บปวดจะสามารถแบ่งออกได้เป็นสองวิธีหลัก ๆ ได้แก่ 

  • การเลือกใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือ Local Anesthesia : จะเป็นเทคนิคการระงับปวดที่เหมาะสำหรับการดูดไขมันในบริเวณขนาดเล็ก อาทิ ใต้คาง หน้าท้องขนาดเล็ก หรือต้นแขน เนื่องจากวิธีดังกล่าวนี้จะช่วยทำให้ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันรู้สึกชาและไม่รู้สึกเจ็บปวดแค่เฉพาะบริเวณที่ทำ แต่ทว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้โดยรวม

  • การเลือกใช้ยาสลบ หรือ General Anesthesia : เป็นเทคนิคการระงับปวดที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้สำหรับการดูดไขมันในบริเวณกว้าง อาทิ ทั้งลำตัว ต้นขา หรือลำตัวหลายจุดพร้อมกัน โดยวิธีดังกล่าวนี้จะทำให้ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันหลับสนิทตลอดกระบวนการและไม่รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในระหว่างการทำ


ความรู้สึกหลังการดูดไขมัน

เมื่อกระบวนการดูดไขมันเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วและฤทธิ์ของยาชาหรือยาสลบเริ่มหมดลง ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันทุกคนอาจเริ่มรู้สึกปวดตึงหรือระบมในบริเวณที่ได้ทำการดูดไขมัน โดยอาการเจ็บปวดดังกล่าวนี้จะเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ ซึ่งจะให้ความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันกับความรู้สึกเจ็บปวดร่างกายหลังจากการออกกำลังกายหนัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ระดับความรุนแรงของความเจ็บปวดหลังการดูดไขมันมักจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้

  • ปริมาณไขมันที่ดูดออก : โดยหากมีการดูดไขมันในปริมาณมากก็อาจทำให้ร่างกายรู้สึกปวดมากกว่าการดูดในปริมาณน้อย แต่ทั้งนี้ทีมแพทย์จะทำการกำหนดปริมาณไขมันที่สามารถดูดออกได้อย่างปลอดภัยในหนึ่งครั้งอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน อาทิ การสูญเสียของเหลวในร่างกายมากเกินไป หรือการเกิดอาการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ

  • บริเวณที่ดูดไขมัน : การดูดไขมันสามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย โดยแต่ละบริเวณก็จะมีลักษณะเฉพาะและระดับความยากง่ายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การเลือกดูดไขมันในบริเวณต้นขาด้านในที่มีเส้นประสาทเยอะกว่า จะทำให้ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันรู้สึกเจ็บมากกว่าบริเวณหน้าท้องที่ไขมันสะสมอย่างหนาแน่น เป็นต้น

  • เทคนิคในการดูดไขมันที่เลือกใช้ : โดยการเลือกใช้เทคนิคการดูดไขมันด้วยคลื่นเสียง (Ultrasound-Assisted Liposuction) จะสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อโดยรอบบริเวณที่ได้ทำการดูดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเทคนิคการดูดไขมันแบบดั้งเดิม ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันรู้สึกเจ็บน้อยกว่าและสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วมากกว่า

  • ประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการดูดไขมัน : โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมักจะสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับรูปแบบและเทคนิคในการดูดไขมันที่มีความเหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี จนนำไปสู่การช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเจ็บปวดหรือภาวะแทรกซ้อน ร่วมกับการช่วยจัดการกับความเจ็บปวดทั้งในระหว่างและหลังการทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • สภาพร่างกายและการตอบสนองของผู้ป่วย : สภาพร่างกายและการตอบสนองต่อกระบวนการดูดไขมันของผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันแต่ละคน จะส่งผลต่อระดับความเจ็บปวด ความเร็วในการฟื้นตัว และผลลัพธ์หลังการทำที่แตกต่างกัน โดยผู้ที่มีผิวหนังยืดหยุ่นดีมักจะตอบสนองต่อการดูดไขมันได้ดีกว่า ในขณะที่ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าและฟื้นตัวได้ช้ากว่าคนทั่วไป

ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการดูดไขมัน (Liposuction) ที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด ด้วยบริการดูดไขมันจาก SIAM LOFT Clinic คลินิกระดับพรีเมี่ยม ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านความงามโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร พร้อมบริการให้คำปรึกษาปัญหาทั้งด้านศัลยกรรม ผิวพรรณ ใบหน้า ไปจนถึงปลูกผม รูปร่าง และการดูดไขมัน Liposuction ด้วยเครื่อง J-plasma Bodytite Vaser smooth2.2HD Ulthera SPT ที่ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและมีความปลอดภัยที่ได้ระดับมาตรฐานสากล รวมถึงผลิตภัณฑ์และยาที่ได้รับมาตรฐานจากองค์การอาหารและยากระทรวงสาธารณสุข เพื่อลูกค้าช่วยลูกค้าคนสำคัญทุกท่านได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจในราคาที่คุณพึงพอใจมากที่สุด โดดเด่นในเรื่องดูดไขมัน

สอบถามข้อมูล ดูดไขมัน เพิ่มเติม SIAM LOFT Clinic

โทรศัพท์ : 061-669-9252
LINE : @Siamloft.clinic
Facebook : facebook.com/SiamLoftClinic
Email : siamloft.c@gmail.com