Slide Background

ดูดไขมัน(Liposuction)ดูดไข มันหน้าท้อง เอว s
ดูดไขมันเหนียง ดูดไขมันต้นขา ดูดไขมันแขน

ศูนย์ดูดไขมัน(Liposuction) ระดับ TOP คลินิกดูดไขมัน ดูดไขมัน

ด้วยเทคนิคผสมผสานที่หลากหลาย ด้วย Vaser smooth 2.2 New Bodytite และ j-plasma ดูดไขมันหน้า โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ดูดไขมัน (Liposuction)

การดูดไขมัน (Liposuction)ป็นการดูดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายในส่วนที่ต้องการโดยใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปในชั้นไขมันที่อยู่ระหว่างผิวหนังด้านบนและกล้ามเนื้อ ที่เรียกว่า Suction ตามศัพท์ทางการแพทย์ 

ในสมัยที่วิทยาการยังไม่ก้าวหน้า การดูดไขมันแต่ละครั้งผู้ที่ทำจะรู้สึกเจ็บจึงนิยมใช้ยาสลบเพื่อบรรเทาความเจ็บในขณะที่ทำ และมีอาการบวมช้ำหลังทำเป็นระยะเวลานานจึงทำให้ผู้ที่ดูดไขมัน (Liposuction) จำเป็นต้องพักฟื้นหลังทำในระยะเวลาหนึ่ง

ในเวลาต่อมาเมื่อการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้นได้มีการคิดค้นวิธีการใหม่ เรียกว่า VASER Liposuction คือใช้น้ำเกลือรวมกับยาชา ช่วยบรรเทาความเจ็บระหว่างที่ดูดไขมัน (Liposuction) เจ็บน้อยลงจึงไม่ต้องใช้ยาสลบ ช่วยให้การดูดไขมัน (Liposuction)ทำได้ง่ายขึ้นใช้เวลาน้อยลง แผลเล็กและนุ่มนวลมากขึ้นจึงทำให้ช้ำน้อย ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ระยะพักฟื้นน้อยลงหรือไม่ต้องพักฟื้นเลยในบางราย อีกทั้งยังมีเครื่องมือที่ทันสมัยมีเทคโนโลยีต่างๆ ช่วยทำให้เห็นผลดีกว่าเดิมและไวขึ้นอีกด้วย 

เครื่องดูดไขมัน (Liposuction) ที่ถูกพัฒนาขึ้นมีหลายแบบ และมีจุดดี จุดเด่นแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น Water Jet liposuction, Microaire PAL, Vaser Smooth 2.2, New Bodytite

Siam loft Clinic และคุณหมอหนึ่งเลือกใช้เครื่อง Vaser Smooth 2.2, New Bodytite ทั้ง 2 เครื่องนี้มีจุดเด่นเป็นเครื่องที่มีเทคโนโลยีล่าสุดในตอนนี้ ผลที่ได้ชัดเจน และไม่ต้องพักฟื้น หลังดูดแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย อาการหลังการดูดช้ำน้อยและเห็นผลไว และยังมีเครื่อง J-Plasma ที่สามารถทำควบคู่กับการดูดไขมัน (Liposuction) เพื่อกระชับผิวหลังจากดูดไขมันได้ทันที และจะกระชับมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปอีกด้วย

ดูดไขมันควรเลือกเครื่องไหนดี

จุดเด่นของเครื่อง Vaser Smooth รุ่น 2.2 

  • รับรองโดย อย. ทั้งไทยและ สหรัฐอเมริกา
  • ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) ในการสลายเซลล์ไขมันให้ไม่เกาะกันเป็นก้อน ทำให้เซลล์ไขมันดูดออกมาง่ายและนิ่มนวล ไม่ทำความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อโดยรอบ เช่น เส้นเลือด เส้นประสาท และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น อาการบวมช้ำน้อยมากๆ
  • แผลเล็กขนาด 0.3 mm ดูแลหลังการทำไม่ยุ่งยาก
  • เหมาะกับทุกวัยที่แพทย์พิจารณาว่าสามารถดูดไขมันได้ สามารถทำได้หลายส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง รอบเอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน นมน้อย น่อง และปีกหลัง
  • สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังทำ ทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติไม่ต้องพักฟื้น

จุดเด่นของเครื่อง New Bodytite

  • รับรองโดย อย. ทั้งไทยและ สหรัฐอเมริกา รุ่นของเครื่อง คลิก
  • มีเทคโนโลยีควบคู่คลื่นวิทยุและความร้อนที่เบามากใช้แค่กระชับผิวเท่านั้น ผิวกระชับขึ้น 40% ลดปัญหาการหย่อนคล้อยพร้อมดูดไขมันในตัว
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่กระชับ หรือสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว
  • สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังทำ ทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติไม่ต้องพักฟื้น

J-Plasma หรือ Renuvion

  • เครื่องเสริมความกระชับผิวหลังดูดไขมัน กรณีผู้ที่มีความย้อนคล้อยมาก ทำให้ผิวกระชับขึ้น 60% ลดปัญหาการหย่อนคล้อยไปเลยเต็มๆ
  • รับรองโดย อย. ทั้งไทยและ สหรัฐอเมริกา รุ่นของเครื่อง คลิก
  • มีเทคโนโลยีควบคู่คลื่นวิทยุ(RF)และก๊าซฮีเลียม(He) ผสานกันยิงเป็นพลาสม่าจากหัวอุปกรณ์ จี้ไปยังเส้นใยใต้ผิว(fibro-septal) โดยตรง ไม่มีความเสี่ยงผิวไหม้ (Burn)
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่กระชับ หรือสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว
  • สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังทำ ทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติไม่ต้องพักฟื้น

**หมายเหตุ ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ พฤติกรรม และการดูแลรักษาหลังการดูดไขมัน**

ด้วยเทคนิคของคุณหมอหนึ่งที่ผสานข้อดีของเครื่อง Vaser smooth 2.2 ร่วมกับ New Bodytite กลบจุดด้อยของ New Bodytite เนื่องจากหัวบอดี้ไทด์ค่อนข้างใหญ่ จึงอาจไม่สามารถเข้าถึงบริเวณที่เป็นซอกแคบๆ ที่ต้องนำท่อเข้าไปดูดไขมันออกมา หรือบริเวณที่จำเป็นต้องปราณีตมากๆ ในการดูดไขมันจะใช้ Vaser Smooth2.2 สามารถเก็บงานให้ออกมาสวยได้รูปเหมาะสมได้

** อ้างอิงเอกสารอย. จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

  • สำหรับผู้ที่มีปัญหาเฉพาะที่ สามารถเลือกเฉพาะจุดเหมาะกับผู้ที่เคยดูดไขมันมาแล้ว และต้องการแก้ไขเฉพาะบางจุด
  • ราคาเหมาแต่ละส่วนชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่ม เหมาะกับผู้ที่ไม่เคยดูดไขมันมาก่อน

สิทธิพิเศษที่ท่านจะได้รับ :  ทุกเคสจะมีแถม คอร์สการฉายแสงลดบวมด้วยเครื่อง LED และ นวดกระชับด้วยคลื่น RF ช่วยเพิ่มความเรียบเนียนและทำให้เนื้อเยื่อเข้าที่กระชับได้รวดเร็วขึ้น และติดตามอาการอย่างน้อย 1 เดือน รับประกันงาน 6 เดือน (โดยต้องเข้ามารับคำปรึกษากับคุณหมอเท่านั้น)

  1. แพทย์ผู้ดำเนินการ : ต้องมีความเชี่ยวชาญและผ่านการอบรมการใช้เครื่องมือที่ใช้ในการทำ เพื่อให้ได้ผลและไม่มีปัญหาหรืออาการแทรกซ้อนตามมาโดยไม่จำเป็น
  2. เทคนิควิธีการดูดไขมัน : จะเป็นวิธีที่ทำให้เห็นผลมากขึ้นและมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและผลข้างเคียงน้อยซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการดูแลตัวเองหลังดูดไขมันแล้ว
  3. เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน : การศัลยกรรมความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมาก เครื่องมือที่ใช้ต้องได้มาตรฐานและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้
  4. การดูแลตนเองหลังทำ : ส่วนนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีผลถึงผลการรักษาโดยรวม การปฎิบัติตัวจำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

การดูดไขมันเป็นการทำลายเซลล์ไขมันในตำแหน่งนั้นอย่างถาวร ไขมันจึงไม่กลับมาสะสมอีก ยกเว้นว่าร่างกายอ้วนขึ้นมีไขมันมากขึ้นมากจริง ๆ โดยทั่วไป เมื่อดูดไขมันในตำแหน่งใดไปแล้ว ไขมันที่สะสมใหม่จะไปอยู่ตำแหน่งอื่น ๆ ก่อน เช่นดูดขาไป ถ้าอ้วนขึ้นก็จะไปอ้วนท้อง เป็นต้น ดังนั้นในคนที่ดูดไขมันต้นขาไปแล้วก็ สามารถขาเล็กลงได้จริง ๆ โดยเฉพาะควบคู่กับการออกกำลังกายและควบคุมอาหารภายหลังการรักษาจะช่วยทำให้ผลที่ได้รับดียิ่งขึ้น และอยู่ได้ยาวนานขึ้น

  1. หลังดูดไขมัน จะมีน้ำซึมจากแผลค่อนข้างมาก ซึ่งจะไหลซึมออกมาเรื่อย ๆ ประมาณ 1-2 วัน โดยให้ใช้ผ้าอนามัยแปะไว้เมื่อทำกิจวัตรประจำวัน และแผ่นรับซับเวลานอน
  2. แผลมีลักษณะเหมือนปากกาจุด ไม่จำเป็นต้องเย็บ แต่ต้องรักษาความสะอาดทำแผลสม่ำเสมอ และแผลห้ามโดนน้ำ 7 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  3. สิ่งที่สำคัญคือการใส่ผ้ากระชับ ในช่วง 1 เดือนแรกควรสวมชุดกระชับเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ให้ถอดได้เฉพาะเวลาอาบน้ำ หรือวันละ 1-2 ชม. ในเดือนที่ 2-3 ให้ใส่วันละ 12 ชม. ทั้งนี้เพื่อให้ผิวหนังมีความกระชับ ได้รูปที่สวยงาม
  4. หลังจากดูดไขมัน จะมีอาการปวดล้า กล้ามเนื้อต้นขาได้บ้างเล็กน้อย แต่สามารถเดินได้ตามปกติ สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที
  5. สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลังดูดไขมัน 3 สัปดาห์ และออกกำลังหนักได้หลังดูดไขมัน 6 สัปดาห์
  6. อาการช้ำ และปวด จะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่อาการบวมจะเป็นนานมากที่สุด ซึ่งอาจจะนานถึง 3 เดือน ทั้งนี้เพราะการดูดไขมันจะไปรบกวนระบบน้ำเหลืองและการไหลเวียนเลือดบ้าง ทำให้ฟื้นตัวนาน
  7. เห็นผลการรักษาได้ 80% เมื่อผ่านไป 3 เดือน และ 100% เมื่อครบ  6 เดือน
  8. อาจมีอาการปลายประสาทอักเสบ รู้สึกชา ๆ จี๊ด ๆ บริเวณที่ทำการดูดไขมันได้ ซึ่งจะหายไปเอง เมื่อครบ 3 เดือน

อยากสวย หุ่นดี ต้องที่ Siam Loft Clinic
สนใจสามารถจองคิวได้ทาง Line official หรือ ติดต่อ​สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทรหา สยามลอฟท์ คลินิก Siamloft Clinic