ดูดไขมันแขน ดูดไขมันต้นขา คลินิกดูดไขมัน
ดูดไขมันแขน เป็นตำแหน่งที่ทำแล้วได้ผลดี และถือว่าเป็นตำแหน่ง
ที่มีการดูดบ่อยมากที่สุด(รองจากหน้าท้อง) แผลเล็ก กล้ามเนื้อไม่ช้ำ
เมื่อใส่เสื้อแล้วไม่สวย ดูดไขมันแขน ช่วยท่านได้
ดูดไขมันแขน เป็นตำแหน่งที่ทำแล้วได้ผลดี และถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีการดูดบ่อยมากที่สุดตำแหน่งนึง (รองจากหน้าท้อง)
แต่อย่างไรก็ตาม การประเมินเรื่องของไขมัน และผิวหนัง ก่อนการดูดไขมันถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะบอกว่า ผลการดูดจะออกมาดีหรือไม่ และคุ้มค่าที่จะทำการดูดไขมันหรือไม่
แขนใหญ่ท่าไหน ??
คนไข้ส่วนมากจะมาโชว์แขนให้หมอดู ในท่ายกแขนเหมือนในรูปด้านบน (เหมือนเบ่งกล้าม) แต่โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน ผู้หญิงมักจะกังวลว่าแขนใหญ่ ในท่าที่แขนปล่อยตามสบายอยู่ด้านข้างลำตัวมากกว่า (เพราะจะทำให้ตัวดูใหญ่ไปด้วย และถ่ายรูปออกมาไม่สวย)
ซึ่งในการจะทำให้แขนที่ปล่อยข้างลำตัวดูสวยงาม เรียวเล็กนั้น หมอจะทำการดูดไขมัน บริเวณท้องแขนด้านใน และด้านนอก ถึงจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง ๆ
ดังนั้นในบางคนยกแขนดูด้านหน้าอาจจะดูไม่ใหญ่มาก แต่พอวางข้างลำตัวแล้วดูใหญ่ วิธีการทำก็จะแตกต่างกันไป
จากภาพเป็นตัวอย่างผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการดูดไขมันต้นแขน โดนเน้นบริเวณด้านข้างลำตัวที่ดูใหญ่
แขนแบบไหนเหมาะกับการดูดไขมัน
1. แขนใหญ่เพราะไขมันล้วน ๆ ผิวหนังก็ยังเต่งตึง กระชับดี
ลักษณะนี้ เหมาะกับการดูดไขมันที่แขนมากสุด เพราะจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ผิวหนังหลังดูดจะกระชับจนแขนได้รูปทรงที่สวยงาม บางคนอาจสงสัยว่า ที่เห็นย้อยๆ ที่แขนนั้นเป็นไขมันหรือเปล่า ทดสอบโดยลองบีบท้องแขนดู ในท่ายกแขน 90 องศา ถ้าจับได้หนา ๆ ก็ใช่แล้วคะ แต่อย่างไรก็ตามควรต้องให้คุณหมอช่วยประเมินอีกทีด้วยเช่นกันว่าควรดูดหรือไม่ ดูดแล้วแก้ปัญหาแบบที่เราต้องการหรือไม่
2.มีไขมันมากที่ต้นแขน แต่มีกล้ามเนื้อมาก
ลักษณะแบบนี้มักจะเป็นคนที่โครงสร้างมีลักษณะกระดูกหนา หรือกล้ามเนื้อใหญ่ (หรือกล้ามเนื้อที่ขาดความกระชับ) ร่วมกับมีไขมันมาก มักจะดูดแล้วให้ผลดี สามารถทำให้สวยได้รูปแบบเฟิร์ม ๆ ได้
ตำแหน่งแผล
เรื่องแผลเป็นถือว่าเป็นผลข้างเคียงสำคัญอย่างหนึ่งของการดูดไขมันบริเวณนี้ เพราะว่าถ้าหลาย ๆ คนดูดไขมันไปก็อยากจะใส่แขนกุด โชว์แขนสวย ๆ ซึ่งทางคลินิกให้ความสำคัญเรื่องนี้มากเช่นกัน ดังนั้นแพทย์จะซ่อนแผลไว้ในที่ๆ ยากที่ใครจะเห็นได้ ถึงแม้ว่าแผลจะเล็ก แต่ก็เพื่อความสวยงามและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
ในการดูดไขมันบริเวณแขน สามารถได้แผลอยู่ สองตำแหน่งคือ
1. บริเวณของข้อศอก (บริเวณนี้ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์)
2. บริเวณรักแร้
การซ่อนแผลให้มองไม่เห็นขึ้นอยู่กับวิจารญาณของแพทย์ผู้ดูแล
การดูแลหลังผ่าตัด
การดูดไขมันบริเวณแขน ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างเจ็บน้อย เมื่อเทียบกับบริเวณอื่น และการดูแลก็ค่อนข้างง่ายกว่าบริเวณอื่นมาก ซึ่งโดยวิธีการสามารถอ่านได้จากหน้านี้ แต่จากประสบการณ์ของหมอคนไข้มักจะมีคำถามกังวลดังนี้
1. การรัดผ้ายืด
หลังดูดไขมันแพทย์จะทำการรัดผ้าบริเวณที่ทำการดูด และหลังจาก 1 วัน ควรเลือกใส่ปลอกกระชับต้นแขนที่ไม่รัดแน่นหรือหลวมเกินไป เพื่อลดอาการบวมที่เกิดขึ้นและช่วยการสมานของเนื้อเยื่อหลังการดูดไขมันได้อีกด้วย
สำหรับระยะเวลาในการใส่ปลอกกระชับอย่างต่อเนื่อง โดยรัด 22-24 ชม ในช่วงเดือนแรก (ถอดได้วันละ 2 ชม.) และรัดอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ในช่วงเดือนที่ 2 เป็นต้นไป ถ้าเป็นไปได้ควรรัดต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อความกระชับของผิวหนัง และผลการรักษาที่ดี
2. อาการบวมช้ำ
หลังการผ่าตัดในช่วง อาทิตย์แรก มักมีอาการเขียวช้ำ ให้ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก และประคบอุ่นหลังจากนั้น โดยคลินิกมีบริการนวดด้วยคลื่น RF หลังทำเพื่อลดอาการเหล่านี้ฟรีในคอร์ส 2 ครั้ง
โดยทั่วไปหลังดูดไขมัน แขนจะมีอาการบวมลดลงเรื่อย ๆ แต่ถ้าแขนบวมมากขึ้นบริเวณที่ดูด หรือรู้สึกว่ามีก้อนน้ำอยู่ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล เพราะในบางกรณีอาจจะต้องเจาะดูดน้ำที่ค้างอยู่ออก(พบได้น้อย)
3. การดูแลแผล
ควรทำแผลทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ไม่ควรให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน ถ้าจำเป็นควรใช้พลาสเตอร์ชนิดกันน้ำ และทำแผลใหม่ทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำ ห้ามปล่อยให้แผลชื้น เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้และปัญหาอื่นๆ ตามมาภายหลังได้
อย่างไรก็ตามก่อนการรับการรักษาควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจ ปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถาม และรับข้อมูลที่จำเป็นก่อนการดูดไขมัน
**หมายเหตุ : ผลการรักษาแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การรักษาอาศัยวิจารณญาณแพทย์เป็นสำคัญ
อยากสวย หุ่นดี ต้องที่ Siam Loft Clinic
สนใจสามารถจองคิวได้ทาง Line official หรือ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่