ดูดไขมัน (liposuction) ส่วนไหนเจ็บที่สุด
ทำไมการ ดูดไขมัน (liposuction) คนถึงนิยม
จนกลายเป็นกระแสไวรัล
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่ง ที่ใช้วิธีการดูดไขมันออก ด้วยเข็มชนิดพิเศษ เพื่อขจัดไขมันส่วนเกิน ออกจากบริเวณเฉพาะส่วนของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก หน้าท้อง คอและคาง เป็นต้น ซึ่งคุณอาจยังไม่ทราบว่า การดูดไขมัน ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนัก แต่เป็นการขจัดไขมันส่วนเกินออก เพื่อปรับรูปร่างให้ดีขึ้น มากกว่าการลดน้ำหนัก นั่นเอง
หากใครกำลังมีปัญหา น้ำหนักตัวเกินมาก ๆ แน่นอนว่า เมื่อน้ำหนักคุณเพิ่มขึ้น เซลล์ไขมันก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการ ดูดไขมัน (Liposuction) จะช่วยลดจํานวนเซลล์ไขมันส่วนเกินได้ ซึ่งปริมาณไขมันที่ถูกกําจัดออก ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของร่างกายส่วนนั้น ๆ ส่วนผิวหนังจะมีการปรับโครงสร้างใหม่ ให้มีความเรียบเนียน และยืดหยุ่นมากขึ้น แต่น้ำหนักตัวอาจคงที่
ถ้าใครวางแผนจะดูดไขมัน สิ่งแรกที่ควรรู้ คือ ต้องเป็นคนที่มีสุขภาพที่ดี และไม่มีปัญหา เกี่ยวกับระบบการไหลเวียนของเลือด เพราะจะทำให้การผ่าตัดง่ายขึ้น ดังนั้นกลุ่มคนที่เป็น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน หรือระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จึงมักมีความเสี่ยงจากการ ดูดไขมัน (Liposuction) มากกว่า ซึ่งอาจส่งผลให้มีเลือดออก และตอบสนองต่อการดมยาสลบได้ไม่ดี
ทั้งนี้ความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนอาจเพิ่มขึ้นได้ หากศัลยแพทย์ที่ทำการดูดไขมัน ไม่มีความชำนาญ ซึ่งเราอาจไม่ทราบเลยว่า ใครชำนาญหรือไม่ชำนาญ ดังนั้นเพื่อลดปัญหาดังกล่าว และอยากบรรเทาอาการเจ็บปวด จากการ ดูดไขมัน (Liposuction) แนะนำให้เลือกการดูดไขมันด้วยไฟฟ้า (PAL) ที่มีความเจ็บปวดน้อยกว่า แบบอัลตราซาวด์ (UAL) และแบบใช้เลเซอร์ (LAL) น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ผลกระทบอื่น ๆ จากการดูดไขมัน ก็อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ความผิดปกติของรูปร่าง ผิวพรรณเหี่ยวย่น ผิวเป็นหลุมหรือนูน ไม่เรียบเนียน ซึ่งอาจเกิดของเหลว สะสมใต้ชั้นผิวหนัง ที่เรียกว่า seromas ซึ่งต้องระบายออกโดยใช้เข็ม และถ้ามีการดูดไขมัน ในปริมาณมากเกินไป อาจเกิดการติดเชื้อ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนการไปดูดไขมัน!
5 บริเวณ ที่เจ็บปวดมากที่สุด หลังจากการดูดไขมัน (Liposuction)
- ต้นแขน
เมื่อเราอายุมากขึ้น ไขมันมักจะสะสมบริเวณต้นแขน โดยเฉพาะในผู้หญิง ผิวหนังและไขมันส่วนเกินนี้ อาจทําให้หลายคน รู้สึกตัวถึงความหย่อนยาน กังวลใจ และไม่มั่นใจในตัวเอง ทำให้ต้องไป ดูดไขมัน (Liposuction) บริเวณต้นแขน เพื่อให้ยกกระชับมากขึ้น ซึ่งร่างกายในส่วนนี้ โดยปกติมักตอบสนองต่อการดูดไขมัน ได้ค่อนข้างง่าย เนื่องจากเป็นบริเวณ ที่มีการใช้งานมากที่สุด จึงมีแนวโน้มที่จะอ่อนไหว จากความเจ็บปวดมากที่สุด นั่นเอง ทั้งนี้ความไวของประสานสัมผัส ที่ตอบสนองต่อความเจ็บปวด ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และการระมัดระวังหลังการผ่าตัด ซึ่งมักแตกต่างกันไปในแต่ละคน - ปีกหลัง
การ ดูดไขมัน (Liposuction) บริเวณปีกด้านหลัง มักถูกมองข้ามความเจ็บปวดอยู่เสมอ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นพื้นที่ ที่อาจได้รับความเจ็บปวด หลังจากการดูดไขมัน แต่ความเป็นจริง คุณอาจกําลังเผชิญปัญหา สายชุดชั้นที่รัดแน่นเกินไป บริเวณด้านหลังนั้น ๆ ทําให้เกิดรอยแดง บริเวณที่เพิ่งดูดไขมัน ซึ่งเนื้อเยื่อบริเวณด้านหลังส่วนล่าง ด้านข้างของซี่โครง มักมีความหนามาก ๆ ทําให้ศัลยแพทย์เข้าถึงได้ยากเช่นกัน ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดความเจ็บปวด จากการดูดไขมัน ก็ย่อมเกิดขึ้นได้ง่ายตามไปด้วย ทั้งนี้ควรดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ถ้ารู้สึกแข็งและบวมบริเวณหลัง ให้ระวังการนอนหงาย และใช้วิธีนอนตะแคง น่าจะดีที่สุด - ขาส่วนล่างและน่อง
สัดส่วนที่ดีใคร ๆ ก็อยากได้ โดยเฉพาะการมีเรียวขาที่เล็ก ไม่มีส่วนเกินให้รำคาญใจ ดังนั้นการดูดไขมัน (Liposuction) บริเวณน่องและขาส่วนล่าง จึงเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพ ในการทําให้ขาและน่อง กระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งบริเวณนี้เป็นบริเวณ ที่มีความไวต่อประสาทสัมผัสความเจ็บปวดเช่นกัน เนื่องจากมีการใช้งานบ่อยครั้ง ไม่ต่างจากบริเวณต้นแขน ซึ่งการเดินไปทำกิจกรรมต่าง ๆ อาจเกิดการเจ็บปวด และบวมได้ง่าย จากการลงน้ำหนักบริเวณขาและน่อง ทำให้คนที่ไม่สามารถพักได้นาน อาจมีความเสี่ยงมากกว่า คนที่ได้พักผ่อนแบบไม่ต้องเดินมาก หลังการดูดไขมัน - ต้นขา
การปรับรูปร่างโดยการดูดไขมัน (Liposuction) บริเวณต้นขาด้านนอก สามารถส่งเสริมรูปร่างบั้นท้าย ให้มีความสวยงาม และเป็นไปตามความต้องการของผู้หญิง ไม่ต่างจากการดูดไขมัน บริเวณต้นขาด้านใน สามารถทำให้ผู้หญิง ที่มีรูปร่างท้วมหรืออ้วน สามารถมี ช่องว่างระหว่างต้นขา ซึ่งเป็นความปรารถนาของผู้หญิง ที่ต้องการความสวยงามและคล่องตัว แต่ใครจะรู้บ้างว่า ความเจ็บปวด จากการดูดไขมันต้นขา อาจต้องแลกมาด้วยความอดทน เนื่องจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น มักเป็นไปในทำนองเดียวกัน กับน่องและขาส่วนล่าง ทำให้หลังการดูดไขมัน ต้องระมัดระวังเรื่องการเดินให้มากขึ้น - สะโพกและก้น
การดูดไขมัน (Liposuction) บริเวณสะโพกและก้น มักได้รับความนิยมในผู้หญิง ที่ต้องการเสริมความมั่นใจ ให้รูปร่างมีความกระชับ ตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น แต่ถ้าไปดูดไขมัน กับแพทย์ที่ไม่เฉพาะทางจริง ๆ อาจมีการปฎิบัติที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งอาจส่งผลให้ผิวหนัง บริเวณสะโพกและก้น เกิดการหย่อนยาน และไม่น่าพอใจอย่างที่คิด ดังนั้นการดูดไขมัน บริเวณสะโพกและก้น ควรทําด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะมีการกดทับมากกว่าส่วนอื่น ๆ และหลังจากดูดไขมัน อาจต้องลดการนั่งนาน ๆ เปลี่ยนเป็นการนอนคว่ำ น่าจะช่วยลดการปวดบวมบริเวณนั้นได้
SIAM LOFT Clinic คลินิกระดับพรีเมี่ยม ที่ตอบโจทย์ความงามอย่างครบวงจร โดยมีปณิธานที่ว่า เพราะความสวย…เนรมิตได้ โดยเฉพาะบริการ ดูดไขมัน (Liposuction) ดูดไขมันหน้าท้อง เอว s ดูดไขมันหน้า ดูดไขมันกรอบหน้า ดูดไขมันเหนียง ดูดไขมันแขน ดูดไขมันต้นขา ที่มีโปรโมชั่นแบบจัดเต็มตลอด เชื่อมั่นได้เลยว่า SIAM LOFT Clinic มีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาปัญหาทั้งรูปร่าง ผิวพรรณ ใบหน้า เช่น ดูดไขมัน j-plasma ulthera ปลูกผม เป็นต้น โดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี กระบวนการใหม่ ๆ ด้วยความปลอดภัยที่ได้ระดับมาตรฐานสากล พร้อมดูแลอาการของลูกค้าทุกเคสเป็นอย่างดี การันตีคุณภาพของคลีนิก จากการให้บริการอย่างดีเยี่ยม ความจริงใจต่อลูกค้า ที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิด
ปรึกษาฟรี!! ค้นหา คลินิกเสริมความงามครบวงจร ระดับพรีเมี่ยม ดูดไขมัน (Liposuction) โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์กว่า 20,000 เคส รีวิวดูดไขมัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม SIAM LOFT Clinic
โทรศัพท์ : 061-669-9252
LINE : @Siamloft.clinic
Facebook : facebook.com/SiamLoftClinic
Email : siamloft.c@gmail.com