ดูดไขมัน (liposuction) เหมาะกับใคร ?
ทำความเข้าใจก่อนไป ดูดไขมัน (liposuction)
ดูดไขมัน หรือ Liposuction เป็นกรรมวิธีการทางการแพทย์ที่ใช้เพื่อลดปริมาณไขมันส่วนเกินในร่างกาย โดยใช้การดูดออกด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสม และมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์หรือศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ดูดไขมัน หรือ Liposuction สามารถทำได้กับบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน สะโพก ก้น เป็นต้น แต่ไม่ใช่การลดน้ำหนักหรือวิธีการสำหรับคนที่อ้วนมากเท่านั้น
การดูดไขมัน (liposuction) เหมาะกับใครบ้าง ?
- คนที่ผอมอยู่แล้ว แต่มีไขมันเฉพาะส่วน หุ่นไม่สมส่วน
- คนที่มีไขมันส่วนเกินสะสมเป็นจำนวนมาก มี BMI เกิน 25 (Over Weight)
- คนที่อยากมี หุ่นเฟิร์ม Sexy line แต่ไม่มีเวลาลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย
- คนที่ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักมาแล้ว แต่ยังไม่ได้หุ่น สัดส่วนที่ต้องการ
- คนที่ต้องการให้สัดส่วนต่าง ๆ เล็กลง อยากเปลี่ยนไซส์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตนเอง
- คนที่ไม่สามารถออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารได้
- สามารถทำได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว และควรมีสุขภาพ ร่างกาย ที่ดี แข็งแรง
แต่การดูดไขมัน (liposuction) ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
- โดยเฉพาะคนที่อ้วนมากๆ BMI ดัชนีมวลกายเกิน 30 เพราะเป็นไขมันจากอวัยวะภายใน ไขมันตับ ไขมันช่องท้อง จึงควรควบคุมน้ำหนักให้ลดลงและคงที่ก่อน
- คนที่มีปัญหาสุขภาพ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น โรคหัวใจ ความดัน โรคเบาหวานค่าน้ำตาลเกิน
- คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดผิดปกติ เช่น เลือดออกมากไหลไม่หยุด เลือดหยุดช้า และโรคแพ้ภูมิตัวเอง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ข้อควรรู้ในการดูดไขมัน (liposuction)
- การดูดไขมัน คือการลดสัดส่วน ปรับสัดส่วน ด้วยการดูดไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวหนังออกไปในปริมาณนึง ทำให้ลดขนาด ลดไซส์ลง สัดส่วนเข้ารูปมากขึ้น โดยจุดที่ไขมันสะสมและเป็นตำแหน่งที่สามารถทำการดูดออกได้คือส่วนของ แขน , ต้นขา , น่อง , สะโพก ,หน้าท้อง , แผ่นหลัง , เอว , ก้น , ปีกหลัง เพื่อให้มีสัดส่วนที่โค้งเว้า สวยงาม เป็นหัตถการที่จะเห็นผลลัพท์อย่่างชัดเจน มีความกระชับ หลังจากดูดทันที น้ำหนักตัวยังคงเดิม ดังนั้นการดูดไขมันจึงไม่ใช่การลดน้ำหนักแบบที่ใครหลาย ๆ คนยังเข้าใจผิดอยู่นั้นเอง
- จากผลการศึกษาพบว่าผู้หญิงจะมีไขมันเซลลูไลท์ (Cellulite) ส่วนเกินมากกว่าผู้ชาย เพราะมีสัดส่วนกล้ามเนื้อที่มากกว่าทำให้เห็นผิวเปลือกส้ม หรือคลื่น ตะปุ่มตะป่ำ ได้อย่างชัดเจน
- เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย จะต้องทำในสถานที่คลีนิคหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ โดยวิสัญญีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญเท่านั้น เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่อร่างกายทั้งระบบได้
- การดูดไขมันแต่ละครั้งจะไม่ควรดูดเกิน 5 ลิตร เพราะอาจเกิดอันตราย
ต้องมีระยะเวลาพักฟื้น เพราะในขั้นตอนการดูดไขมันจะมีการผสมน้ำเกลือ (Saline) กับยาชา ช่วยลดความเจ็บและการเสียเลือด จะทำให้มีน้ำไหลออกมาจากแผลที่ใส่ท่อดูดไขมัน จึงไม่สะดวกในชีวิตประจำวันหรือการไปทำงาน โดยจะเป็นแค่ช่วงระยะสั้นเวลา ๆ 2 – 3 วันแรก - อาการบาดเจ็บ บางคนอาจมีอาการ บาดเจ็บ บวมช้ำ แต่จะหายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แล้วแต่ร่างกายของแต่ละบุคคล
- อาจจะเกิดผิวคลื่น ไม่เรียบ ผิวเป็นก้อน ขนาดซ้ายและขวาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการดูด
หากคุณสนใจทำ ดูดไขมัน (Liposuction) ควรปรึกษาแพทย์หรือศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อรับคำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสม และให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
SIAM LOFT Clinic คลินิกระดับพรีเมี่ยม ที่ตอบโจทย์ความงามอย่างครบวงจร โดยมีปณิธานที่ว่า เพราะความสวย…เนรมิตได้ โดยเฉพาะบริการ ดูดไขมัน (Liposuction) ดูดไขมันหน้าท้อง เอว s ดูดไขมันหน้า ดูดไขมันกรอบหน้า ดูดไขมันเหนียง ดูดไขมันแขน ดูดไขมันต้นขา ที่มีโปรโมชั่นแบบจัดเต็มตลอด เชื่อมั่นได้เลยว่า SIAM LOFT Clinic มีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาปัญหาทั้งรูปร่าง ผิวพรรณ ใบหน้า เช่น ดูดไขมัน j-plasma ulthera ปลูกผม เป็นต้น โดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี กระบวนการใหม่ ๆ ด้วยความปลอดภัยที่ได้ระดับมาตรฐานสากล พร้อมดูแลอาการของลูกค้าทุกเคสเป็นอย่างดี การันตีคุณภาพของคลีนิก จากการให้บริการอย่างดีเยี่ยม ความจริงใจต่อลูกค้า ที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิด
ปรึกษาฟรี!! ค้นหา คลินิกเสริมความงามครบวงจร ระดับพรีเมี่ยม ดูดไขมัน (Liposuction) โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์กว่า 20,000 เคส รีวิวดูดไขมัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม SIAM LOFT Clinic
โทรศัพท์ : 061-669-9252
LINE : @Siamloft.clinic
Facebook : facebook.com/SiamLoftClinic
Email : siamloft.c@gmail.com