รักษาสิวจัดเต็มทุกขั้นตอน โปรแกรม Acne Clear
- กดสิว
- ฉีดสิว
- ทายา
- ทานยา
- พบแพทย์
- ทำทรีทเม้นท์
พิเศษ!! ฉายแสง LED สีแดง สามารถกระตุ้นการซ่อมแซมของผิว และยังมีประสิทธิภาพทั้งในการฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบของสิว และลดรอยแดงรอยดำได้ในหนึ่งเดียว ไม่อันตราย ไม่มีบาดแผล ไม่มี Effect หลังทำ และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
Acne Clear เหมาะกับใครบ้าง?
- เหมาะกับทุกสภาพผิวที่มีปัญหาสิวอักเสบรอยแดงจากสิว
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำบัดให้หน้าขาวใส แลดูอ่อนเยาว
Omnilux พลังงานแสงรักษาสิว
ทรีทเมนต์และเลเซอร์
OmniluxTM นวัตกรรมแสงบำบัด (Light therapy) เพื่อการรักษาสิวและรอยจากสิวที่ดีที่สุด เทคโนโลยีต้นแบบอันดับ 1 จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน US FDA
OmniluxTM
OmniluxTM นวัตกรรมแสงบำบัด (Light therapy) เพื่อการรักษาสิวและรอยจากสิวที่ดีที่สุด เทคโนโลยีต้นแบบอันดับ 1 จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน US FDA
OmniluxTM โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีแสงเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสิว P. acnes สาเหตุของสิวอักเสบ, ลดการอักเสบแดง, ควบคุมความมัน และลดรอยแดง-รอยดำจากสิวได้ดีที่สุด และมีความอ่อนโยนกับผิวหนัง ด้วยเทคโนโลยีแสงผสมผสานควบคู่กันในการรักษา ได้แก่ แสงสีน้ำเงิน (Omnilux BlueTM) และสีแดง (Omnilux Revive2TM)
OmniluxTM เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบหรือสิวผดผื่น
- ผู้ที่มีปัญหาสิวดื้อยา
- ผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นที่ใบหน้า หรือส่วนอื่นของร่างกาย
- ผู้ที่มีปัญหารอยแดงจากการอักเสบของสิว
**หมายเหตุ ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ**
OmniluxTM เทคโนโลยีเพื่อการรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
OmniluxTM ทำงานด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีแสง Light Emitting Diodes หรือซอฟต์เลเซอร์ในการรักษา โดยตัวเครื่องจะปล่อยพลังงานแสงอย่างเฉพาะเจาะจงไปยังเซลล์ในชั้นผิวลึกถึงผิวชั้นใน แสงสำคัญที่เป็นใช้ในการรักษามีอยู่ 2 ชนิด คือ สีน้ำเงิน และสีแดง
แสงสีน้ำเงิน (Omnilux BlueTM; 415 nm) มีประสิทธิภาพสูงสุดในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยเป้าหมายอยู่ที่ Coproporphyrin III ซึ่งเป็นตัว Photosensitiser ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของเชื้อ P. acnes ทำให้เชื้อแบคทีเรียตายอย่างรวดเร็ว มีผลกับแบคทีเรียทั้งชนิดที่ปกติและที่ดื้อยาซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวอักเสบ โดยไม่ทำให้เชื้อ P. acnes เกิดภาวะดื้อยาตามมา ทำให้ Omnilux BlueTM เป็นการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภาวะ Actinic keratosis
แสงสีแดง (Omnilux Revive2TM; 633 nm) นวัตกรรมแสงบำบัดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างและซ่อมแซมผิวหนัง (skin rejuvenation) โดยการกระตุ้น collagen precursors และเอนไซม์ในกระบวนการ cellular remodeling อันเป็นกิจกรรมที่สำคัญของเซลล์ fibroblast ในการซ่อมแซมผิวและเนื่องจากเป็นตัวกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวและเพิ่มการไหวเวียนของเลือดในบริเวณดังกล่าว Omnilux revive2TM จึงเป็นทรีตเมนท์ที่ช่วยลดการอักเสบ รอยแดงสิวและช่วยการรักษาสิวได้ผลดียิ่งขึ้นด้วย
ความรู้สึกขณะได้รับการรักษา
ตลอดระยะเวลา 30 นาทีของขั้นตอนการรักษา ผู้ได้รับการรักษาจะรู้สึกสบายผิว และผ่อนคลาย ไม่แสบร้อน เนื่องจาก OmniluxTM ไม่ใช่เลเซอร์ หรือ IPL จึงไม่เกิดความร้อนขึ้นที่ผิว ไม่มีการทำลายชั้นผิวและผลข้างเคียง นอกจากนี้ยังไม่ต้องพักฟื้นผิวด้วย
ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย OmniluxTM
- 98% ฆ่าแบคทีเรีย P. acnes ต้นเหตุของการเกิดสิวอักเสบ
- 81% เครียร์สิวอักเสบและลบรอยแดงจากสิว
- 73% ของผู้ได้รับการรักษามีรอยการอักเสบลดลงใน 4-8 สัปดาห์ หลังการรักษา
- 64% แก้ไขปัญหาความมันบนใบหน้า
- 83% ลดเรือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- 82% มีผิวที่เรียบเนียนปราศจากสิวภายใน 12 สัปดาห์ หลังการรักษาครั้งสุดท้าย
IPL
การรวมเอาพลังงาน 2 ชนิดไว้เข้าด้วยกัน ได้แก่แสงเลเซอร์ร่วมกับคลื่นวิทยุ RF ซึ่งเป็นลิขสิทธ์เฉพาะ ที่ขั้วของ RF แบบ 2 ขั้ว (Bi-polar RF) จะเป็นขั้นเย็น (Contact Cooling) เพื่อปกป้องผิวด้านบนให้ปลอดภัย ซึ่งได้ผลดีกว่าพลังงานแสงหรือ RF เดี่ยว ๆ
Super SR ฟื้นฟูผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง ด้วยพลังงานแสงความเข้มสูง (IPL) ทำงานร่วมกับคลื่นวิทยุความถี่สูง RF เพื่อทำลายเม็ดสีที่มีความผิดปกติ ช่วยฟื้นฟูให้อ่อนเยาว์ Skin Rejuvenation ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ของผิวพรรณดังนี้ โดยไม่ทำให้ผิวหนัง บาดเจ็บและไม่ต้องพักฟื้น
IPL รักษาเรื่องใดบ้าง
- ปรับสีผิวที่ไม่เรียบและไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส
- ลบเลือนจุดด่างดำ เช่น เม็ดสีคล้ำ ผิวตกกระจากแสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยให้ฝ้าจางลงในกรณีเป็นฝ้าตื้น
- ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากความผืดปกติของเส้นเลือดบนใบหน้า เช่น โรคหน้าแดง รอยจากสิว และเส้นเลือดฝอย
- ระยะเวลาในการทำ ใช้เวลาตั้งแต่ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา ระยะแรกแนะนำให้ทำติดต่อกันประมาณ 3-5 ครั้ง ทุก 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล*
